การเตรียมตัวรับกับภาวะตกงาน

สิ่งที่คุณควรตอบให้ได้ เผื่อต้องเจอกับสถานการณ์ตกงาน

ในชีวิตการทำงาน เราไม่อาจจะรู้อนาคตได้เลยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง อย่างเช่นในสถานการณ์ตกงานที่เป็นเหมือนฝันร้ายกับทุกคนในวัยทำงาน และไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นแน่นอน เพราะมันหมายถึงความลำบากในชีวิต ยิ่งในสภาวะปัญหาเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้วางแผนการเงินเอาไว้ล่วงหน้า และใช้ชีวิตอย่างประมาท หากเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็ยากที่จะเอาตัวรอดได้ เพราะกว่าจะหางานใหม่ได้อีกครั้ง เราไม่รู้เลยว่าจะนานแค่ไหน ยิ่งคนที่มีอายุมากขึ้น เปอร์เซ็นต์ที่จะหางานได้ก็ยากขึ้นไปด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวรับมือเอาไว้เท่านั้น ที่จะช่วยให้ชีวิตของเรารอดจากสถานการณ์เช่นนี้ได้ การเตรียมตัวรับกับภาวะตกงาน ต้องเตรียมตัวยังไง 1. คุณมีการวางแผนเงินออมหรือยัง เงินออมจะเป็นเหมือนที่หลบภัยฉุกเฉินเมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนั้น เพราะว่าการตกงานก็หมายความว่าจะไม่มีงานให้คุณทำระยะหนึ่ง จนกว่าจะหางานได้ใหม่ การจะเอาตัวเราจากปัญหานี้ได้ ก็คือคุณต้องเอาเงินเก็บจากส่วนที่ทำงานไว้ก่อนหน้านั้นแหละมาเป็นตัวพยุงคุณให้รอด และคุณสำรวจดูหรือยังว่าคุณมีเงินออกที่จะใช้จ่ายในส่วนนี้แล้วหรือยัง มีมากน้อยแค่ไหน จะเพียงพอหรือไม่ หากคุณยังไม่มี ก็ควรจะเริ่มเตรียมตัววางแผนการออมเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย ยิ่งเตรียมพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าได้นานเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้ชีวิตของคุณไม่ต้องเสี่ยง และไม่ต้องลำบากมากเท่านั้น เพราะเรื่องเหล่านี้รอไม่ได้ เนื่องจากเราไม่อาจรู้อนาคตวันข้างหน้าของเราได้เช่นกัน เตรียมพร้อมเอาไว้ปลอดภัยกว่า 2. ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ บางคนพอเริ่มต้นทำงาน ก็เริ่มซื้อของต่างๆ มากขั้นทันที จากที่ไม่เคยมีก็มีหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ซึ่งล้วนแต่เป็นภาระหนักๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหากคุณมีภาระหนักแบบนี้ คุณเตรียมความพร้อมเอาไว้หรือยังว่าต้องใช้เงินเยอะเท่าไหร่จึงจะประคองตัวเองให้รอดได้ ลองคำนวนค่าใช้จ่ายเรื่องเหล่านี้ในแต่ละเดือนของคุณออกมาดู ว่าเบ็ดเสร็จแล้วเป็นเงินเท่าไหร่ เพื่อที่คุณจะได้วางแผนเอาไว้ได้ถูก 3. จะหารายได้เพิ่มจากที่ไหนได้บ้าง ในสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ […]

รับรีโนเวทบ้าน

Amminterior รับ รีโนเวทบ้าน ตอบทุกคำถามที่คนอยากรีโนเวทบ้านต้องรู้

การรีโนเวทบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้งบประมาณมากพอสมควรและบริษัทรับรีโนเวทบ้านจะต้องเชื่อถือได้ จึงจะมั่นใจได้ว่าบ้านที่ได้รับจะสวยคุ้มสมกับราคาที่จ่ายไป ดังนั้นคนที่รีโนเวทบ้านจึงอาจจะมีคำถามด้วยกันอยู่หลายข้อ วันนี้เราทางเราจึงได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยๆมาฝากกัน คำถามที่พบได้บ่อยของการรับรีโนเวทบ้าน บริษัทรับรีโนเวทบ้านของเราเปิดให้บริการมานาน หลายครั้งมีลูกค้าเข้ามาขอคำปรึกษาและสอบถามถึงข้อสงสัยต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการรีโนเวทบ้าน โดยคำถามที่พบได้บ่อยที่สุด มีดังต่อไปนี้ ต้องการรีโนเวทบ้าน เริ่มต้นอย่างไรดี เริ่มต้นที่การตั้งคำถามกับตัวเองว่า การรีโนเวทบ้านครั้งนี้ทำเพื่อจุดประสงค์ใด ต้องการปรับปรุงบ้านทั้งหลัง ปรับเปลี่ยนแค่บางส่วนหรือแค่ซ่อมแซมเท่านั้น เมื่อตอบคำถามตรงนี้ก็จะช่วยให้ขอบเขตการรีโนเวทบ้านนั้นชัดเจนมากขึ้น ช่วยให้วางแผนการทำงานและกำหนดงบประมาณได้สะดวกขึ้น ซึ่งเมื่อได้จุดประสงค์ แผนงานและงบประมาณคร่าวๆแล้ว การรีโนเวทบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หาบริษัทรับเหมาอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวทิ้งงาน ปัญหาช่างทิ้งงานเป็นปัญหาอันดับต้นๆที่หลายคนกลัว เพราะถ้าหากเจอช่างไม่ดี อาจเจอตั้งแต่ปัญหาทั่วไปอย่างงานไม่เรียบร้อย ล่าช้า เสร็จไม่ทันตามกำหนดไปจนถึงโดนโกงค่าวัสดุหรือทิ้งงานไปเลยก็ได้ ดังนั้นการเลือกผู้ให้บริการรีโนเวทบ้านจึงเป็นอีกขั้นตอนที่ต้องใส่ใจมาก การเลือกบริษัทสามารถพิจารณาเบื้องต้นจากปัจจัยง่ายๆ เช่น ความน่าเชื่อถือของบริษัท ผลงานที่ผ่านมา ผลตอบรับจากลูกค้า ปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น บริการหลังการขาย ประกัน ค่าใช้จ่าย เป็นต้น งบประมาณจำกัด รีโนเวทบ้านได้หรือไม่ การรีโนเวทบ้านสามารถทำได้ภายใต้งบประมาณที่กำหนดไว้ โดยทางลูกค้าควรเข้าไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของบริษัทรับรีโนเวทบ้าน จะได้จัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมและวางแผนการทำงานอย่างรัดกุมเพื่อให้ค่าใช้จ่ายยังอยู่ในงบที่กำหนด แต่ถ้าหากงบจำกัดมากจริงๆจะทยอยทำแค่ทีละส่วนหรือเลือกทำเฉพาะส่วนที่สำคัญก่อนก็ได้เช่นเดียวกัน ควรมีประกันหรือไม่ แม้แต่สินค้าชิ้นเล็กราคาไม่แพงก็ยังมีประกัน ดังนั้นการรีโนเวทบ้านก็ต้องมีประกันเช่นเดียวกัน เพราะบ้านเป็นสิ่งที่ต้องใช้พักอาศัยเป็นเวลานาน ค่าใช้จ่ายก็สูงไม่น้อย เพราะฉะนั้นวัสดุที่ใช้ก่อสร้างก็ควรจะต้องคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานสมกับราคาที่ต้องจ่ายไป แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่างานรีโนเวทนี้มีคุณภาพจริง? […]

วิธีทาสีบ้านเองง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เหมือนได้บ้านใหม่

บ้านของเรานั้นเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะไม่เคยที่จะคิดถึงการทาสีผนังใหม่ ซึ่งบางทีนั้นหลาย ๆ บ้านนั้นอาจจะมีผนังที่มีรอย และ มีเชื้อรา จนอาจจะทำให้ผนังของเรานั้นไม่ได้มีสภาพดีเหมือนก่อน เเต่ว่าการที่เราจะไปจ้างช่างมาเพื่อทาสีก็ดูจะเสียงบประมาณเกินไป ดังนั้นในบทความนี้สำหรับใครที่ต้องการจะทาสีบ้านใหม่ เรามีวิธีเเนะนำในการทาสีบ้านให้สวยงาม เหมือนได้บ้านใหม่ มาฝากกับทุกคนนะครับ
ขัดสีเก่า เตรียมพื้นผิวให้พร้อม
อย่างเเรกเลยนั้นคือในเรื่องของ “การเตรียมพื้นผิว” นั้นสำคัญอย่างมากนะครับ เพราะว่าการเตรียมพื้นผิวที่ดี นั้นจะช่วยให้สีที่เราทาออกมานั้น มีคุณภาพ มีสีที่เรียบไปในทิศทางเดียวกัน โดยเราจะต้องขัดพื้นผวของเราให้เรียบเนียน มีเชื้อราให้กำจัดเชื้ออกให้หมอ และ ใช้น้ำยายับยั้งเชื้อราด้วยนะครับ ถ้าหากว่ามีรอยร้าว หรือ รอยแตกก็ให้เราอุดให้เรียบร้อยนะครับเพื่อที่พื้นผิวจะได้เรียบเนียน ในตอนที่เราลงทีทับหน้านะครับ เพราะว่าถ้าหากว่าพื้นผวยังมีรอยอยู่ก็อาจจะทำให้ตอนลงพื้นผิวจริงเกิดรอบยขึ้นได้นะครับผม

กิจกรรมแก้เบื่อช่วงกักตัว

อยู่บ้านในช่วงกักตัว จะทำอะไรเพิ่มดี

ตั้งแต่มีวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นบนโลก ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการทำงานของทุกคนล้วนเปลี่ยนไปจากเดิมทั้งสิ้น จากที่คิดว่าไม่เคยจะต้องมาทำงานที่บ้าน ก็กลายเป็นว่ามาทำงานที่บ้านแทน และบางกิจการก็ปิดไปชั่วคราวเลยก็มี เมื่อเปลี่ยนให้พนักงานมาทำงานที่บ้านได้ หลายๆ คนก็ดูเหมือนจะมีเวลาในชีวิตเพิ่มมากขึ้น เพราะงานจะทำตอนไหนก็ได้ และถ้าจะปล่อยให้เวลาว่างเหล่านั้นให้หมดไปเฉยๆ ก็เป็นการใช้เวลาไม่ให้เกิดประโยชน์ แล้วเราจะทำอะไรเพิ่มดีในช่วงเวลาว่างเหล่านี้ และเราก็ได้รวบรวมไอเดียที่จะทำให้คุณได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาฝากกัน มาดูว่ามีอะไรบ้าง สิ่งที่ควรทำในเวลาว่าง เมื่อคุณอยู่ที่บ้าน 1. หาความรู้ในสิ่งที่เรายังไม่ชำนาญ เวลาว่างในช่วงที่อยู่บ้านนี่แหละ จะเป็นเหมือนกับช่วงเวลาเงินเวลาทองที่จะทำให้คุณทำอะไรได้หลายอย่าง ฉะนั้นองสำรวจตัวเราเองดูว่ายังมีอะไรที่ขาดในชีวิตอยู่บ้าง ที่เรายังไม่ชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับการทำงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน แล้วต้องการอยากจะทำให้ดียิ่งขึ้น ก็ควรจะใช้เวลาในส่วนนี้แหละในการหาความรู้เพิ่มเติม 2. เรียนภาษาเพิ่ม สมัยนี้การรู้เพียงแค่ภาษาเดียวอาจจะไม่เพียงพอกับการทำงาน ฉะนั้นการเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาที่สาม หรือภาษาที่สี่ จะเป็นการสร้างความได้เปรียบให้คุณได้เปรียบหลายๆ คนอีกบ้าง อีกทั้งงยังมีโอกาสที่จะเลือกงานที่ให้ค่าตอบแทนกับคุณได้ด้วย เช่น การได้ไปทำงานยังต่างประเทศ ฉะนั้นเวลาในว่างที่อยู่บ้านนี่แหละ ที่คุณสามารถเอามาใช้เป็นช่วงเรียนภาษาเพิ่ม เพราะปัจจุบันเราก็เรียนออนไลน์ได้หมดแล้วด้วย 3. ฝึกทำอาหารทานเอง การออกนอกบ้านในช่วงนี้อาจจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ เพราะว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ ฉะนั้นหากคุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย อาจจะลองใช้เวลาว่างในการฝึกทำอาหารทานเองดู นอกจากจะได้ดคุณภาพของอาหารที่ดีกว่าแล้ว การทำอาหารทานเอง ยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยทีเดียว เพราะทำครั้งหนึ่งก็กินได้หลายมื้อ หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำยังไง ก็มีตัวอย่างให้ดูในอินเตอร์เน็ตมากมาย 4. ออกกำลังกาย เวลาที่อยู่บ้านคนส่วนใหญ่ก็มักจะพักผ่อน หรือเสพสื่อบันเทิงอย่างเดียว […]